วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

สร้างRelay Moduleอย่างง่ายเพื่อนำไปใช้เชื่อมต่อกับบอร์ด Embedded System เช่น Raspberry pi



การสร้างRelay Module อย่างง่าย

เพื่อนำไปใช้เชื่อมต่อกับบอร์ด Embedded System
Raspberry pi , Arduino และวงจรไมโครคอนโทรลเลอร์อื่นๆ 





         สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้ครับ และขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาโดยตลอด วันนี้บทความนี้จะพูดถึงเรื่องการสร้างวงจร Relay module แบบง่ายๆโดยอาศัยหลังการทำงานของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ การนำทรานซิสเตอร์มาทำงานเป็นสวิตช์
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ Relay module ก่อน

สนใจไฟล์ติดต่อขอซื้อไฟล์ต้นฉบับที่นี่  คลิก!!
                
             module ในที่นี้จะหมายถึงบอร์ดที่ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างบอร์ด Embedded system กับอุปกรณ์ที่เราต้องการควบคุม 

                  Relay ก็คือสวิตช์แม่เหล็กไฟฟ้า ก็เหมือนกับการใช้ที่เรากดสวิตช์ปิดเปิดไฟเมื่อกดเปิดก็ หน้าสัมผัสอีกฝั่งหนึ่งก็ไปแตะกับอีกฝั่งหนึ่ง จึงทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านจากแหล่งจ่ายไปยังโหลดจนครับวงจร รีเลย์ก็เช่นกันเพียงแต่เปลี่ยนจากระบบกดด้วยมือเป็นการปล่อยกระแสไฟฟ้าให้ไหลผ่านขวดลวดเหนี่ยวนำให้เกิดสนามแม่เหล็กไปผลักหน้าสัมผัสไปแตะกันเพื่อเชื่อมต่อเป็นสะพานไฟ โดยปกติแล้วรีเลย์จะมีสองสถานะคือ NO หรือ ปกติเปิด และNC คือปกติ มาดูภาพประกอบการทำงานเพื่อความเข้าใจกันดีกว่า 



          จากภาพแสดงการทำงานของรีเลย์สถานะ NC หรือปกติปิด ความหมายคือไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดของรีเลย์ (รีเลย์ไม่ทำงาน)ทำให้หน้าสัมผัสเชื่อมต่อจาก COM ไปยังขา NC 



           จากภาพแสดงการทำงานของรีเลย์สถานะ NO หรือปกติเปิด ความหมายคือมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดของรีเลย์ (รีเลย์ทำงานสังเกตจะได้ยินเสียงดังแต๊ก)ทำให้หน้าสัมผัสเปลี่ยนการเชื่อมต่อเดิมจาก COM ไปยังขา NC เปลี่ยนเป็น COM ไปยังขา NO แทน

          เราสามารถนำวงจรดังกล่าวไปประยุกต์ในการทำสวิตช์ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆได้ แต่ที่สำคัญเราควรศึกษาการเลือกใช้ Relay ให้เหมาะสมกับงานที่เราต้องการนำมาใช้ เช่น มีการทดกระแสสและแรงดันมากพอ ใช้กับไฟ AC หรือ DC เป็นต้น เราพอจะทราบว่าเราสามารถสั่งให้ Relay ทำงานได้โดยการป้อนแรงดันให้กับขดลวด ส่วนต้องการแรงดันเท่าไหร่เราสามารถตรวจสอบได้จาก Datasheet  ของรีเลย์ตัวที่เราต้องการใช้ เช่นรีเลย์ 5V , 12V , 24V

แล้วทีนี้เราจะเอาแรงดันจากไหนไปจ่ายให้ขดลวดหละจาก Port เอาต์พุตได้ไหม แล้วจะให้แรงดันไหลตามที่เราได้โปรแกรมไว้ได้อย่างไรปกติแล้ว ?

              คำตอบคือ แรงดันเอาต์พุตจากบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ส่วนใหญ่จะมีแรงดันอยู่ที่ 5V แต่ถ้าแรงดันจากพอร์ต GOPI ของ Raspberry pi อยู่ที่ 3.3V ถือว่าเป็นแรงดันขนาดเล็กไม่เหมาะกับการนำไปใช้อุปกรณ์ที่กินกระแสสูงๆ เช่น ขดลวดรีเลย์ แรงดันไฟที่ไปเลี้ยงตัวบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์อาจดรอปลงได้ และการควบคุมการไหลของไฟกระแสตรงจะอธิบายในหัวข้อถัดไป

การใช้ทรานซิสเตอร์ทำงานเป็นสวิตช์
            การนำทรานซิสเตอร์มาทำเป็นสวิตช์มีอยู่สองสถาวะ คือสถาวะต่อวงจร (ON) และคือช่วงที่ทรานซิสเตอร์ทำงานในช่วงsaturationหรือช่วงอิ่มตัวและสภาวะตัดวงจร (OFF) คือช่วงที่ทรานซิสเตอร์ไม่เกิดการนำกระแสหรืออยู่ในสถะวะไม่อิ่มตัวการที่จะทำให้ทรานซิสเตอร์อยู่ในสภาวะ On ได้คือการไอบัสตรงที่ขาBase ของทรานซิสเตอร์ด้วยแรงดันที่พอเหมาะ และการทำให้ทรานซิสเตอร์อยู่ในสภา  Off คือการไบอัสกับให้ขา Base ของทรานซิสเตอร์ 



                  แสดงการทำงานของสวิตช์ทรานซิสเตอร์ชนิด NPN เมื่อจ่ายแรงดันบวกไบอัสให้ขา B  ทรานซิสเตอร์ทำงาน ค่าความต้านทานระหว่างขา C และ E ต่ำลงเสมือนกับค่าตานทานเท่า 0 หรือมีการเชื่อมต่อกันทำให้ทรานซิสเตอร์ต่อวงจร (ON)





                   เมื่อจ่ายอัสกลับ IB  = 0 ค่าความต้านทานระหว่างขา C และ E มีค่ามากเหมือนการแยกออกจากกันของหน้าสัมผัสสวิตช์ทำให้เกิดการตัดวงจร (Off)




                     แสดงการทำงานเมื่อยังไม่มีแรงดันบวกไปอัสที่ขา B ทำให้ความต้านทานระหว่างขา C และขา E  ทรานซิสเตอร์มีค่าความต้านทานมาก สังเกตจากขดลวดของรีเลย์มีการต่ออยู่กับแหล่งจ่ายไฟ 12Vด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งต่อกับขา C ของทรานซิสเตอร์รอการตัดต่อให้อีกขาหนึ่งขอขดลวดไปต่อกับ Ground สถานะรีเรย์ตอนนี้คือ NC หลอดไฟ L2 ทำงานตลอดเวลา 


           แสดงการทำงานเมื่อมีแรงดันบวกไปอัสที่ขา B กระแสไหลผ่านตัวต้านทาน RB ความต้านทานระหว่างขา C และขา E  ทรานซิสเตอร์มีค่าความต้านทานน้อยมาก สังเกตจากขดลวดของรีเลย์มีการต่ออยู่กับแหล่งจ่ายไฟ 12Vด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งต่อกับขา C  ทรานซิสเตอร์ตัดต่อให้อีกขาหนึ่งของขดลวดไปต่อกับ Ground สถานะรีเรย์ตอนนี้คือ NO หลอดไฟ L1 ทำงานตลอดเวลา และหลอดไฟ L2 ดับลง 

          สำหรับการออกแบบ Relay module แบบง่ายๆก็มีเนื้อหาที่จะนำเสนอไว้เพียงเท่านี้ ส่วนการออกแบบวงจร PCB ท่านสามารถดูวีดีโอนี้และฝึกทำตามได้ครับ ปรับคุณภาพเอาครับหากสะดุด







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น